นักท่องเที่ยวโวยวาย ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียมีการระบุว่าตัวเขาและเพื่อนๆได้มีการรวมตัวนัดกันไปเที่ยวที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดตรังโดยสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวนั้นเป็นเบสซึ่งอยู่บนเกาะลิบง  อย่างไรก็ตามชายหนุ่มรายนี้มีการระบุว่าเขาและเพื่อนๆของเขานั้นเดินทางไปพักเมื่อวันที่ 4 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 แล้วก็ต้องเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก

          เพราะหลังจากเข้าพักเสร็จเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นขณะที่กำลังเตรียมตัวที่จะกลับบ้านกันนั้นปรากฏว่าสร้อยคอทองคำของเขาซึ่งหนัก 4.50 บาทได้หายออกไปจากห้องพักของเขา 

และเขาสงสัยพนักงานของรีสอร์ทรวมถึงอาจจะเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะลิบงก็ได้นอกจากทองคำจะหายแล้วยังมีเงินสดหายอีกจำนวน 2,000 บาทอีกด้วยโดยใช้หนุ่มคนดังกล่าวระบุว่าในคืนก่อนเกิดเหตุนั้นเขาและเพื่อนๆพากันมากินสุราจนเมาจึงไม่ค่อยได้สติซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาก่อเหตุหลังจากที่พวกเขาเมาหลับไปแล้ว

      อย่างไรก็ตามชายหนุ่มคนดังกล่าวระบุว่ามูลค่าความเสียหายของเขาทั้งสิ้นนั้นมีสูงถึง 130,000 บาทซึ่งในขณะนี้เขาได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมกันนี้ใน Facebook ของเขายังติดแฮชแท็กไปถึงคนที่อยู่บนเกาะลิบงว่าให้นำทองและเงินมาคืนไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อนที่สำคัญจะมีการประจานไม่ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นเดินทางไปเที่ยวที่เกาะลิบงอีกเลย 

       อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางด้านเจ้าของรีสอร์ทได้ออกมาชี้แจงว่าทางรีสอร์ทนั้นยืนยันว่าไม่มีพนักงานคนไหนมีการเข้าไปลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างแน่นอนและทางรีสอร์ทยังสงสัยได้ว่าเหตุการณ์ทองคำและเงินหายนั้นอาจจะเป็นการแต่งเรื่องจากทางลูกค้าเอง

เพราะลูกค้านั้นไม่ได้มีการแจ้งตอนที่มีการเช็คเอาท์ออกแต่เมื่อ Check Out ออกไปได้สักระยะแล้วถึงมีการมาบอกกับทางรีสอร์ทว่ามีเงินสดและทองคำหายซึ่งทางรีสอร์ทก็ยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเหตุการณ์ในครั้งนี้

         นอกจากทางรีสอร์ทจะได้ความ เดือดร้อนจากการที่ชายหนุ่มคนนี้โพสต์ผ่านทาง Social Media แล้วทางชาวบ้านบนเกาะลิบงเองก็ได้ รับความเดือดร้อนมากเช่นเดียวกันเพราะชายหนุ่มมีการโพสต์พูดถึงชาวบ้านทั้งเกาะลิบงซึ่งทำให้คนทั้งเกาะนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่เกาะถือว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงของเกาะลิบง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านระบุว่าอาจจะมีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย

       อย่างไรก็ตามบทสรุปแล้วผลปรากฏว่าจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าคนร้ายที่รักขโมยสร้อยคอทองคำและเงินสดไปนั้นก็คือหนึ่งในกลุ่มของเพื่อนที่เดินทางมาเที่ยวกับผู้เสียหายนั้นเองซึ่งหลังจากที่เรื่องร้านนี้ถูกเผยแพร่ออกไปชายหนุ่มเจ้าของโพสต์ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางโซเชียลเพื่อขอโทษชาวเกาะลิบงและทางรีสอร์ทเป็นที่เรียบร้อยแล้วนอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่าจะเดินทางไปที่เกาะลิบงเพื่อไปทำการขอโทษด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งด้วย 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet