ไม่ทำคลอดให้สุดท้ายเด็กเสียชีวิต เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องหัวใจสลายหลังจากที่ต้องเฝ้ารอลูกมานานเกือบจะ 9 เดือนจนเกือบจะได้เห็นหน้าลูกน้อยแล้วแต่ปรากฏว่าลูกต้องเสียชีวิตทั้งที่ยังไม่ได้ทันลืมตามาดูโลกโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้หญิงสาวซึ่งเป็นว่าที่คุณแม่นั้นได้เปิดเผยเรื่องราวของตนเอง
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เธอนั้นหัวใจสลายเป็นอย่างมากโดยหญิงสาวรายนี้ชื่อว่านางสาวจิรากร เธอได้บอกเราเรื่องราวของเธอผ่านทางสำนักข่าวช่อง 3 เมื่อวันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565
โดยนางสาวจิรากรเล่าเรื่องราวเริ่มต้นว่าเธอได้ตั้งครรภ์และมีการฝากครรภ์พิเศษไว้กับคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาเธอรู้สึกเจ็บท้องนอกจากนี้ยังมีเมือกออกมาด้วยเธอจึงได้มีการโทรไปพูดคุยกับคุณหมอที่เธอได้ฝากครรภ์พิเศษเอาไว้ว่าเธอควรจะไปโรงพยาบาลหรือไม่
ซึ่งคุณหมอแนะนำให้เธอไปที่โรงพยาบาลเพื่อที่คุณหมอที่โรงพยาบาลจะได้มีการตรวจสอบกันให้อย่างละเอียดว่าเธอสมควรที่จะคลอดได้หรือไม่เนื่องจากว่ากำหนดการข้อที่แท้จริงของเธอนั้นจะเป็นวันที่ 17 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 แต่บางคนก็อาจจะเกิดเคสคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน
เมื่อนางสาวจิราภรณ์เดินทางไปถึงโรงพยาบาลทางโรงพยาบาลก็ให้เธอ Admin ทันทีหลังจากนั้นเธอรู้สึกว่าเธอมีอาการปวดท้องแบบถี่บ่อยแต่เมื่อตรวจสอบปากมดลูกปรากฏว่าเปิดเพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้นทำให้ทางโรงพยาบาลไม่ทำคลอดให้กับเธอแต่ให้เธอนอนรอ 1 คืนหลังจากนั้นรุ่งเช้าพยาบาลก็มาบอกให้เธอกลับบ้านได้โดยบอกกับเธอว่าคุณหมอที่เธอฝากครรภ์พิเศษเอาไว้ไม่ได้มาทำคลอดให้
อย่างไรก็ตามเมื่อนางสาวจิรากรกลับมาถึงบ้านปรากฏว่าเธอมีความรู้สึกว่าลูกในท้องของเธอ ufabet นั้นไม่ดิ้นด้วยความไม่สบายใจเธอจึงติดต่อกลับไปหาคุณหมอที่เธอฝากครรภ์พิเศษเอาไว้อีกครั้งหนึ่งซึ่งคุณหมอก็บอกให้เธอมาที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตามเมื่อคุณหมอตรวจท้องของเธอดูก็ปรากฏว่าลูกของเธอนั้นเสียชีวิตแล้ว ทำให้เธอรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นางสาวจิรากรมองว่าถ้าหากคุณหมอที่โรงพยาบาลได้มีการตรวจครรภ์ของเธออย่างละเอียดและในช่วงวันที่เธอมาติดต่อเมื่อวันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์คุณหมอผ่าคลอดให้กับเธอ เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นและเธอก็คงจะไม่ต้องสูญเสียลูก
ซึ่งนางสาวจิรากรยังระบุด้วยว่าหลังจากที่พบว่าลูกของเธอเสียชีวิตทางด้านฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลก็ติดต่อหาเธอทันทีพร้อมกับมอบเงินเยียวยาบางส่วนให้ซึ่งเธอนั้นไม่ได้ต้องการรับเงินเยียวยาแต่เธอนั้นต้องการความรับผิดชอบจากทางโรงพยาบาลมากกว่านี้ซึ่งทางโรงพยาบาลก็รับปากว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ต่ออย่างแน่นอน