วันที่ 10 เมษายน 2566 ได้มีข่าวใหญ่เกิดเหตุ ยิง ถล่มบ้านอดีต ผู้ใหญ่บ้านของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในพื้นที่ของ หมู่บ้านหมู่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี

มีชาวบ้านแจ้งเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ที่บ้าน ของผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งที่ชาวบ้าน บอกว่าเป็นคนจิตใจดีจะคอยช่วยเหลือชาวบ้าน ได้ยินมาจากบ้านหลังนี้ยังไม่รู้ต้นปลายสาเหตุว่าเกิดจากอะไรจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ทันที พบผู้เสียชีวิต ทั้งหมด 4 ศพ น่าจะมาจากเรื่องราวของ ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกเขย ของผู้ใหญ่บ้านคนนี้

ซึ่งได้มาคบหากับลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านที่มีชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ เพิ่งถามผู้ใหญ่บ้านคนนี้ พึ่งได้ ผู้ก่อเหตุมาเป็นลูกเขยได้ไม่นานมานี้ผู้ก่อเหตุมีชื่อว่าดาบตำรวจอรรถพร ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ อยากได้ ผู้ก่อเหตุ มาเป็นลูกเขยเนื่องจากฐานะ

ค่อนข้างต่างกันและไม่ชอบลูกเขยคนนี้จึงกีดขวางไม่ให้ลูกสาว คบกับดาบตำรวจคนนี้ จึงสั่งห้ามให้เลิกกันน่าจะเป็นเหตุ ที่ทำให้ดาบตำรวจอรรถพร วางแผนมาฆ่าอดีตผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ในครั้งนี้ แต่ไม่ใช่เป็นผู้ใหญ่บ้านรณรงค์คนเดียว ที่เสียชีวิต ยังมีคนอื่นอีก 3 คน เสียชีวิต ณ บ้านที่เกิดเหตุ

ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของทางผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ เป็นตัวบ่งชี้ว่าใครเป็นผู้ปลูกเข้ามาที่บ้านและเสียชีวิตผู้ที่เสียชีวิตอีก 3 คน

คือ นางนินทิพย์ภรรยาของผู้ใหญ่รณรงค์ ก็เสียชีวิต ณ ที่บ้าน เช่นกัน ส่วนอีกคน เป็นเพื่อนของผู้ใหญ่รณรงค์ ชื่อพรศักดิ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าผู้ใหญ่กรอก สุดท้ายที่เสียชีวิตนั้นเป็นพี่ชายของดาบตำรวจอรรถพร ซึ่งได้มารถคันเดียวกับทางดับตำรวจแต่ถูกผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ยิงเสียชีวิต ชื่อว่านายธรรมรัตน์ ที่ผู้ใหญ่รณรงค์ ได้ทำการยิงในธรรมรัตน์นั้น

เป็นเพราะว่านายธรรมรัตน์ บุกเข้ามาที่บ้านและใช้ปืน M  16 ยิงทางผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ก่อนผู้ใหญ่บ้านจึงป้องกันตัว

โดยใช้ปืนยิงตอบโต้นายธรรมรัตน์เสียชีวิตทันที ส่วนคนรณรงค์นั้นถูกดับตำรวจอรรถพรยิงอยู่บนบ้านชั้น 2 ของคุณรณรงค์เอง ส่วนตัวดาบตำรวจอรรถพรนั้น ได้หนีไป และพาลูกสาวของคุณรณรงค์อดีตผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตคนนี้ หนีหลบไปด้วยรถเก๋งสีเทาซึ่งยังไม่ทราบจุดหมายปลายทางว่าเสียชีวิตอยู่ที่ใด

หรือมีชีวิตอยู่เป็นตายร้ายดียังไง ชาวบ้านใกล้เคียง ก็หวั่นกลัวเกรงจะได้รับอันตรายอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รีบนำตัว มา ดำเนินคดี เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านใกล้เคียง ส่วนศพที่เหลือนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรศพและให้ไปทำพิธีกรรมตามศาสนาญาติพี่น้องแต่ละฝ่ายก็ได้นำร่างศพ ไปบำเพ็ญกุศล ส่วนคดีจะมีความคืบหน้าอย่างไรนั้น ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งเบาะแสเพิ่มเติม

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง